สยามพิวรรธน์ ผนึก ทิพยประกันภัย มอบประสบการณ์การบริการเหนือระดับ เปิดตัว “ InsurVerse Capsule BY DHIPAYA INSURANCE ” นวัตกรรมการให้บริการสุดล้ำ ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมมอบสิทธิประโยชน์มากมาย

ข่าวบริษัท - 26 พฤษภาคม 2565


- สยามพิวรรธน์ ผนึก ทิพยประกันภัย เดินหน้าร่วมขยายอีโค่ซิสเต็ม ขยายฐานลูกค้าเชื่อมทั้งสองธุรกิจพร้อมดูแลคุ้มครองลูกค้าในทุกที่ทุกเวลา

- เปิดตัว InsurVerse Capsule by DHIPAYA INSURANCE ครั้งแรกในประเทศไทย มอบประสบการณ์การบริการในแบบล้ำสมัย ให้ลูกค้าเลือกใช้บริการหลากหลายจากทิพยประกันภัย ได้ ในจุดต่างๆ ทั้ง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และไอคอนสยาม

- ผุดโปรแกรมเอ็กซ์คลูซีพมอบสิทธิพิเศษ แพคเกจ และบริการแบบเหนือระดับ ที่สร้างสรรค์เพื่อลูกค้าทั้งบนแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperApp และลูกค้าภายในศูนย์การค้า

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพผนึกกำลัง บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำในด้านการประกันภัย ร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งของอีโค่ซิสเต็ม และสร้างความสำเร็จร่วมกัน ตอกย้ำกลยุทธ์ Collaboration to Win ร่วมมอบประสบการณ์เหนือระดับ พร้อมความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาช้อปปิ้งภายในศูนย์ฯ หรือ ช้อปผ่าน ONESIAM SuperApp ด้วยการนำเสนอโปรแกรมประกันที่ให้ความคุ้มครองลูกค้าด้วยแพคเกจพิเศษ โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าทิพยประกันภัย ล่าสุดเปิดตัว InsurVerse Capsule by DHIPAYA INSURANCE ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าเข้าถึงการประกันภัยอย่างง่ายดาย เลือกใช้บริการได้ด้วยตนเอง เปิดให้บริการแล้วทั้งในศูนย์การค้ากลุ่มวันสยามและไอคอนสยาม

ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮล ดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิพยประกันกัย ได้นำนวัตกรรมในการให้บริการที่ล้ำสมัยสะดวกสบาย เข้าถึงง่าย รวมถึงมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมนอกเหนือจากกรมธรรม์ โดยจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างโปรแกรมสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าเพิ่มเติม

ล่าสุดได้เปิดตัว “InsurVerse Capsule BY DHIPAYA INSURANCE” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์การบริการรูปแบบใหม่ ในลักษณะตู้คีออสที่ออกแบบอย่างทันสมัย สามารถเลือกใช้บริการที่หลากหลายทั้งด้านประกันภัยและ Entertainment จากทิพยประกันภัย อาทิ เลือกซื้อประกันภัย ตรวจสอบกรมธรรม์ แจ้งเคลม ค้นหาศูนย์ซ่อม โรงพยาบาล และยังสามารถ VDO Conference เพื่อรับคำปรึกษาหรือแก้ไขปัญหาในการทำประกันภัยกับเจ้าหน้าที่ทิพยประกันภัยผ่านกล้องที่ติดตั้งภายใน TIP Kiosk ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบ TIP Coin เพื่อแลกรีดีมสิทธิประโยชน์ที่มีให้เลือกหลากหลาย และยังมี Gimmick น่ารักๆ สามารถถ่ายภาพที่ระลึกกับเพื่อนๆและครอบครัวกับ Digital Photo ที่สามารถรับไฟล์ภาพได้ทันทีอีกด้วย

โดย “InsurVerse Capsule BY DHIPAYA INSURANCE” เปิดตัวพร้อมกัน 8 โลเคชั่น เพื่อให้ลูกค้ามาเปิดประสบการณ์ใหม่ร่วมกันได้แล้วที่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และไอคอนสยาม

นอกจากนี้ ทิพยประกันภัย และ สยามพิวรรธน์ ยังได้สร้างสรรค์แคมเปญร่วมกันในหลายรูปแบบ เพื่อให้ลูกค้าสมาชิกทั้งของ ทิพยประกันภัย และลูกค้าของวันสยามและไอคอนสยาม จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย ผ่าน ONESIAM SuperApp อีกด้วย

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “กลยุทธ์ Collaboration to Win ของสยามพิวรรธน์ในการเสริมสร้างอีโคซิสเต็มให้แข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ได้ดำเนินการมาอย่างมุ่งมั่นและต่อเนื่องในทุกมิติ โดยมุ่งเน้นการมอบประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ ที่เข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าของศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ไอคอนสยาม และ ONESIAM SuperApp ในยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย ช่องทางการเข้าถึงสินค้าและบริการได้ทุกที่ทุกเวลา ความร่วมมือระหว่าง สยามพิวรรธน์ กับพันธมิตรทางธุรกิจระดับผู้นำในธุรกิจประกันภัย ได้แก่ ทิพยประกันภัย ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความเข้าใจวิถีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปและพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสุขภาพ หันมาใส่ใจเรื่องการทำประกันในรูปแบบต่างๆเพื่อสร้างความอุ่นใจในการใช้ชีวิตซึ่งส่งผลให้กลุ่มธุรกิจประกันเติบโตอย่างต่อเนื่องเราจึงมองเห็นโอกาสการเชื่อมธุรกิจในเครือสยามพิวรรธน์สู่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าของเราในรูปแบบใหม่และเป็นโอกาสของขยายฐานลูกค้าซึ่งกันและกัน

เชื่อว่าศักยภาพอันแข็งแกร่งของทั้งสองผู้นำธุรกิจ อย่าง สยามพิวรรธน์ และ ทิพยประกันภัย จะเสริมสร้างอีโค่ซิสเต็มที่สยามพิวรรธน์และพันธมิตรที่ร่วมกันสร้างขึ้นนั้น เกิดการ Share Values และทวีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด และผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดก็คือผู้บริโภคนั่นเอง