ค้าปลีกไทยกระหึ่ม “ชฎาทิพ จูตระกูล” ได้รับการจารึกชื่อในหอเกียรติยศสภาค้าปลีกโลก และ “ไอคอนสยาม” คว้ารางวัลสูงสุด Best Store Design of the Year 2019 จาก World Retail Awards

ข่าวบริษัท - 30 พฤษภาคม 2562


- “ชฎาทิพ จูตระกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ได้รับ เกียรติสูงสุดในฐานะผู้หญิงไทยคนแรกที่ได้รับการจารึกชื่อในหอเกียรติยศของสภาการค้าปลีกโลก (World Retail Hall of Fame 2019)

- “ไอคอนสยาม” คว้ารางวัลชนะเลิศ โครงการที่ออกแบบดีที่สุดในโลกจาก World Retail Awards 2019 สาขา Best Store Design of the Year ตอกย้ำความสำเร็จของการรวมพลังความคิดสร้างสรรค์ระดับชาติ การผนึกกำลังหัวใจคนไทยหลายภาคส่วน ร่วมกับผู้มีฝีมือจากทั่วโลก


เราต้องการให้โครงการต่างๆ ของเรา สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าตื่นตาตื่นใจ สร้างคุณค่าและแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่มาเยี่ยมเยือน และเราปรารถนาให้สยามพิวรรธน์เป็นบริษัทไทยที่นำพาเกียรติยศและการยอมรับนับถือในเวทีโลก มาสู่คนไทยและประเทศไทยของเรา– นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด

กรุงเทพฯ (30 พฤษภาคม 2562) วันนี้ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” อภิมหาโครงการเมืองสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกาศความสำเร็จอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของวงการค้าปลีกไทยบนเวทีระดับโลก เมื่อ “ชฎาทิพ จูตระกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ในฐานะผู้หญิงไทยคนแรกที่ได้รับคัดเลือกให้ถูกจารึกชื่อใน “World Retail Hall of Fame 2019” ของสภาการค้าปลีกโลก (World Retail Congress) ในฐานะผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและมีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางและการขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกในระดับโลก อีกทั้ง “ไอคอนสยาม” คว้ารางวัลชนะเลิศ “World Retail Awards 2019” ในฐานะเป็นโครงการที่ออกแบบดีที่สุดในโลก (Best Store Design of the Year) ณ งานมอบรางวัล World Retail Awards ประจำปี 2019 ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ พิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีบุคคลชั้นนำในแวดวงค้าปลีกจากทั่วโลกเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ทั้งนี้ การจารึกชื่อ World Retail Hall of Fame เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 เป็นการประกาศเกียรติคุณระดับสูงสุด เพื่อเชิดชูผู้ประกอบกิจการในวงการค้าปลีกที่มีความคิดสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมากที่สุด ตลอดจนเป็นผู้ที่มีบทบาทและทรงอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนวงการค้าปลีกมากที่สุด ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นที่จะทำความฝันให้เป็นจริงได้ และดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวด เป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างให้ผู้อื่น โดยในปี 2019 นี้ ยังมีผู้ได้รับการจารึกชื่อในหอเกียรติยศของสภาการค้าปลีกโลก ได้แก่ Cath Kidston--Founder of Cath Kidston, Dick Boer--Former President and CEO of Ahold Delhaize และ Rodney McMullen--Chairman and CEO of The Kroger Co.

โดยในอดีตผู้ที่เคยถูกจารึกชื่อในหอเกียรติยศสภาค้าปลีกโลก อาทิ Ingvar Kamprad--Founder of IKEA, Jack Ma--Alibaba, Michael Gould--Bloomingdales, Burt Tansky--Neiman Marcus, Sir Stuart Rose--Marks & Spencer, Sir Paul Smith--Paul Smith, Martha Stewart, Jacques Levy--Sephora, Tadashi Yanai--Uniqlo, Jo Loves--Founder Jo Malone, Richard Liu--JD.com เป็นต้น

บนเวทีเดียวกันนี้ “ไอคอนสยาม” อภิมหาโครงการเมืองสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสยามพิวรรธน์เป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของและผู้พัฒนาโครงการร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ก็สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ World Retail Awards 2019 ในสาขา Best Store Design of the Year เป็นโครงการที่มีการออกแบบดีที่สุดในโลก สร้างสรรค์สถาปัตยกรรมร่วมกับทีมงาน นักออกแบบ บริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิเทค จำกัด โดยความสำเร็จจากการรับรางวัลในครั้งนี้คณะกรรมการได้กล่าวว่า “ไอคอนสยาม คือ โครงการที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ที่ได้สร้างสรรค์และนำพาการออกแบบค้าปลีกให้ก้าวไปสู่อนาคตและสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงการ เป็นโครงการที่ผสมผสานรูปแบบค้าปลีก ที่พักอาศัย และความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยร่วมมือกับศิลปินและช่างฝีมือจากทั่วประเทศไทยและจากทั่วโลก ตลอดจนร่วมมือทำงานกับชุมชนโดยรอบ และผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการสร้างโครงการที่มิใช่มีแค่เรื่องของธุรกิจค้าปลีก หากแต่เป็นโครงการที่นำทั้งวัฒนธรรม นวัตกรรม และศิลป์มาไว้ร่วมกันอย่างเยี่ยมยอด”

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอด ระยะเวลา 60 ปี สยามพิวรรธน์มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในการสร้างต้นแบบ และนำมาตรฐานใหม่ๆ มาพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก เพื่อให้งานของเราเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด เราสร้างปรากฏการณ์ปฏิวัติวงการไม่ใช่เฉพาะแต่ในประเทศไทยแต่รวมถึงวงการค้าปลีกของโลกให้เกิดขึ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จและพลิกเกมส์ครั้งยิ่งใหญ่ (Game Changer) ครั้งแล้วครั้งเล่า”

นางชฎาทิพ กล่าวว่า “การพัฒนาโครงการไอคอนสยามจนสำเร็จ ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ (New Paradigm) ในการทำธุรกิจในรูปแบบ ‘Shared Values’ หรือการสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นร่วมกันทุกฝ่าย และ ‘Co-Creation’ หรือการร่วมกันรังสรรค์ ให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรมและในสเกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน สร้างผลประโยชน์ให้แผ่กระจายไปในวงกว้างทั้งระดับชุมชน สังคม และประเทศ”

“ความสำเร็จของไอคอนสยามในวันนี้ เกิดจากจากการรวมพลังความคิดสร้างสรรค์ครั้งยิ่งใหญ่ระดับชาติอย่างแท้จริง ซึ่งต้องขอขอบคุณหัวใจคนไทยหลายภาคส่วน ผู้มีความรู้ความสามารถจากชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ ภาคธุรกิจ ภาคราชการ ศิลปิน ผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ รวมถึงผู้คนจากนานาสาขาอาชีพจากทั่วประเทศ และผู้ชำนาญการในด้านต่างๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากหลากหลายประเทศที่รักเมืองไทย ซึ่งรวมแล้วเป็นทีมผู้ร่วมสร้างสรรค์นับพันคน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีความปรารถนาที่จะช่วยกันสร้างสัญลักษณ์ใหม่ให้เป็นตัวแทนจินตนาการแห่งยุค เสริมสร้างให้คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย และช่วยกันสืบทอดความงดงามของความเป็นไทยในทุกมิติสู่ชนรุ่นหลัง อีกทั้งให้คนทั่วโลกที่มาเยือนรู้สึกหลงรักและประทับใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น”

“ความภาคภูมิใจประการหนึ่งของสยามพิวรรธน์คือการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก และการประกาศให้โลกรู้ว่าพวกเราคนไทยมีความคิดสร้างสรรค์และมีความรู้ความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก รางวัลอันทรงเกียรตินี้ไม่เพียงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับนับถือของนานาประเทศมากขึ้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของเกียรติยศ ความสำเร็จและความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน เสมือนเป็นการนำเอาธงชาติไทยไปโบกสะบัดบนเวทีโลกร่วมกัน” นางชฎาทิพ กล่าว

สยามพิวรรธน์ จะเดินหน้าดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์และจุดยืนที่แตกต่างของการใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เพื่อสร้างสรรค์โครงการที่ยิ่งใหญ่ร่วมกับทุกฝ่าย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งแผ่กระจายความเจริญรุ่งเรือง อำนวยประโยชน์ให้กับบรรดาธุรกิจที่อยู่โดยรอบ ดูแลสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน สร้างประโยชน์ให้สังคมไทยในวงกว้าง สร้างความเจริญทางเศรษฐกิจในระดับชุมชน สังคม และประเทศ และที่สำคัญคือการสร้างชื่อเสียงที่ดีงามให้กับประเทศ และนำพาประเทศไทยไปชนะใจคนทั้งโลก