สยามพิวรรธน์ เดินหน้าขยาย Ecosystem ผนึกพันธมิตรธุรกิจแข็งแกร่งระดับโลก ตอกย้ำจุดยืนผู้พัฒนาโกลบอล เดสติเนชั่น ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลก

ข่าวบริษัท - 21 มิถุนายน 2566



- ก้าวสำคัญของระบบนิเวศธุรกิจระดับโลกอย่างไร้พรมแดนของสยามพิวรรธน์ เปิดประตูสู่โอกาสที่กว้างไกล และก่อให้เกิดความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

- ชูธงกลยุทธ์ Co-creation & Collaboration ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกอุตสาหกรรม เพื่อเติมเต็มศักยภาพให้กับธุรกิจรูปแบบใหม่เติบโตและก้าวไปไกลกว่าเดิมอย่างรวดเร็ว

- ตอกย้ำจุดยืน ผู้พัฒนาโกลบอล เดสติเนชั่น ที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของผู้คน และได้รับการยอมรับในการนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่เหนือความคาดหมาย และเป็นผู้นำในการปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกอยู่เสมอ

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ ผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ รุกเดินหน้าขยายระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลกแบบไร้พรมแดน ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ และนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่เหนือความคาดหมายต่อเนื่อง ตอกย้ำผู้พัฒนาโกลบอล เดสติเนชั่น ที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของผู้คนทั่วโลก

นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพิวรรธน์ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้าง Ecosystem มาโดยตลอด โดยยึดมั่นในกลยุทธ์ Co-create & Collaboration to Win การผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรเพื่อการสร้างโอกาสธุรกิจหรือสร้าง business model ของการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ Rise Above the Oceanโดยพลังแห่งการผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีอยู่ทั่วโลกนี้ ส่งผลให้สยามพิวรรธน์ได้สร้างปรากฏการณ์ นำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ก่อนใครมาโดยตลอดทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน และครองความเป็นผู้นำในการปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกอยู่เสมอ”

“ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การดำเนินธุรกิจไม่จำเป็นต้องวางกรอบอยู่ในอุตสาหกรรมแบบเดิมอีกต่อไป สยามพิวรรธน์มีความเชื่อมั่นในศักยภาพไร้ขีดจำกัดของอีโค่ซิสเต็มที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม จะเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสการขยายธุรกิจอย่างไร้พรมแดน สามารถสร้างธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน นำจุดแข็งของแต่ละองค์กรมาช่วยเติมเต็มศักยภาพให้กับธุรกิจเติบโตและก้าวไปไกลกว่าเดิมอย่างรวดเร็ว ส่งผลนำไปสู่ความสำเร็จในด้านต่างๆ อาทิ Speed to Market การเพิ่มสปีดทางการตลาด สามารถรับมือและตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Additional Revenue สร้างรายได้เพิ่มขึ้น นำไปสู่แนวทางการสร้างรายได้ใหม่ สมประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน Incremental Traffic and Expand Customer Base การผนึกกำลังกับพันธมิตรที่หลากหลาย มาพร้อมกับฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่กว้างขึ้น และส่งผลต่อจำนวน traffic ของทุกศูนย์การค้าที่เพิ่มขึ้น”

สยามพิวรรธน์นำกลยุทธ์ Co-create & Collaboration to Win มาสร้างความสำเร็จให้องค์กรใน 2 แนวทางหลัก ได้แก่ 1. Collaboration to strengthen core business in all platforms and strengthen competitive edge การผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตร เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจหลักในทุกแพลตฟอร์ม และเสริมจุดแข็ง เพื่อสนับสนุนศักยภาพการแข่งขันบนเวทีโลก และ 2. Collaboration to create new growth & new revenue additional revenue การผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตในรูปแบบใหม่ๆ และมีช่องทางการหารายได้ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น

ขยายอีโค่ซิสเต็มสู่ระดับโลก สร้างปรากฏการณ์เหนือความคาดหมาย ตอกย้ำการเป็น Global Admiration ที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของผู้คน

ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจ จับมือร่วมสร้างผลความสำเร็จและปฏิวัติวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกครั้งแล้วครั้งเล่า อาทิ การเปิดตัวแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperApp เมื่อปลายปี 2564 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลากหลายพันธมิตรทางธุรกิจ รวมกว่า 13 อุตสาหกรรมมากกว่า 50 องค์กร ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอ แอปพลิเคชั่น ONESIAM นับเป็น growth engine ที่สำคัญของสยามพิวรรธน์ในการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าแบบ O2O อีกทั้งสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นและเป็นเครื่องมือหลักในการให้บริการและดูแลกลุ่มลูกค้าสมาชิก VIZ อีกด้วย

การเปิดพื้นที่ True 5G PRO HUB ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการร่วมผนึกกำลังระหว่าง 3 ผู้นำธุรกิจจากต่างอุตสาหกรรม ได้แก่ สยามพิวรรธน์ True และ กันตนากรุ๊ป ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ True 5G PRO HUB ให้เป็นศูนย์รวมครบวงจรของคอมมูนิตี้ E-Sport โลกใบใหม่สำหรับคน New Gen พื้นที่แห่งความสร้างสรรค์ การค้นพบ และการพัฒนาตัวเองสู่ทักษะอนาคต ที่จะตอบโจทย์ 3 ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ Gamer & E-Sports, Gen Z Lifestyle และ Future Skills ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ขณะเดียวกันสยามพิวรรธน์ได้ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยจับมือ TAGTHAi แพลตฟอร์มบริการด้านการท่องเที่ยวไทย นำเสนอจุดขายที่แตกต่างและประสบการณ์ใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยว High Quality Tourists เปิดตัว ONESIAM Pass ตอบรับการขยายการท่องเที่ยวสู่ตลาด Lifestyle Travel นอกจากนี้ ความร่วมมือกับพันธมิตรยังรวมถึงการผนึกกำลังกับคอมมูนิตี้หรือองค์กรต่างๆ เพื่อสร้างปรากฏการณ์ร่วมกัน ล่าสุด สยามพิวรรธน์ ผนักกำลัง องค์กรบางกอกนฤมิตไพรด์ และ กรุงเทพมหานคร จัดงาน Bangkok Pride 2023 พาเหรดยิ่งใหญ่ตระการตาของชาว LGBTQ+ เพื่อแสดงศักยภาพและความพร้อมจัดงานระดับโลก World Pride 2028 ของกรุงเทพมหานคร โดยงานประสบความสำเร็จมีผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมกว่า 25,000 คน

ในปีนี้ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการขยายอีโค่ซิสเต็มอย่างต่อเนื่อง ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งระดับโลก โดยมีโปรเจคสำคัญเพื่อสร้างปรากฏการณ์เหนือความคาดหมายหลายโครงการ ได้แก่

- นิทรรศการผลงานศิลปินระดับโลก Van Gogh Alive Bangkok จัดแสดงในรูปแบบ Immersive Multi-Sensory Experience ณ ไอคอนสยาม ได้ผนึกกำลังกับ Live Impact Events ร่วมกับ Grand Experiences และ Sensory 4 ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอิมเมอร์ซีฟและเทคโนโลยีด้านภาพ แสง สี เสียงเบอร์ต้นๆ ของโลก นำนิทรรศการระดับโลก ซึ่งเคยจัดแสดงมาแล้วมากกว่า 80 เมืองทั่วโลก เช่น ปักกิ่ง เบอร์ลิน เดนเวอร์ ลอนดอน มาดริด มอสโคว โรม ซิดนีย์ ฯลฯ มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดูงานศิลปะผ่านเทคโนโลยีแสง สี เสียงที่ทันสมัย บวกกับการออกแบบพื้นที่ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของศิลปะจริงๆ โดยเปิดให้ชมตั้งแต่วันนี้ - 31 ก.ค. 2566 จากนั้นจะมีนิทรรศการของศิลปินระดับโลกอื่นๆ หมุนเวียนมาจัดแสดงอย่างต่อเนื่อง นับเป็นความสำเร็จทั้งในด้านการสร้างรายได้ และการสร้างทราฟฟิค โดยได้รับความนิยมจากทั้งลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวจำนวนล้นหลาม

- ล่าสุด สยามพิวรรธน์ ผสานศักยภาพ INNOCEAN (อินโนเชียน) บริษัทชั้นนำระดับโลกในเครือ ฮุนไดมอเตอร์กรุ๊ป เปิดประตูสู่โอกาสการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ระหว่างประเทศ และการแลกเปลี่ยนการจัดการองค์ความรู้ ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์การดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่ายเน็ตเวิร์คทางธุรกิจที่มีอยู่ทั่วโลก รวมทั้งการศึกษาข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อค้นหาแนวทางการขยายธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต เพื่อสร้างปรากฏการณ์และมอบประสบการณ์แปลกใหม่ในธุรกิจรีเทลที่ไม่เคยมีมาก่อนทั้งในประเทศไทย, เกาหลีใต้ และนานาประเทศทั่วโลก

โดยประเดิมความร่วมมือทางธุรกิจ ด้วยการเปิดตัวไลฟ์สไตล์ป๊อบอัพช็อป สุดฮอต ครั้งแรกในประเทศไทยพร้อมกัน 2 โปรเจค ได้แก่ Boggle Boggle K-Ramyun Pop-up Shop” ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับพื้นที่แห่งประสบการณ์กับราเมนเกาหลีสุดฮอตจากเกาหลีใต้ ที่ไม่ได้นำเสนอเพียงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารระดับตำนาน แต่ยังมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้สนุกไปกับเทรนด์และไลฟ์สไตล์สุดฮอตของชาวเกาหลีในแบบออริจินัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจนเนอเรชั่น Z เปิดบริการบนชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน – 31 กรกฏาคม 2566 นอกจากนี้ ยังมี BTS Pop-Up : Space of BTS” ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนคลับและผู้ชื่นชอบ K-Culture เป็นจำนวนมาก ระหว่างวันที่ 10 มิ.ย. – 31 ก.ค. 2566 ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่ ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ และ INNOCEAN ยังมีต่อเนื่องต่อไป และเตรียมนำเสนอความแปลกใหม่ ปรากฏการณ์ใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง

- ในธุรกิจ MICE หรือศูนย์การประชุมและการแสดงระดับโลกภายใต้กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ได้แก่ รอยัล พารากอน ฮออล์ บนชั้น 5 สยามพารากอน และ ทรูไอคอนฮออล์ บนชั้น 7 ไอคอนสยาม ล่าสุด!! รอยัล พารากอน ฮอลล์ ได้ร่วมจับมือ บริษัท แม็กซ์อิมเมจ จำกัด สร้างสรรค์สุดยอดคอนเสิร์ตของปรมาจารย์ด้านการแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์มือทองแห่งยุคในงาน THONBURI PHANICH GROUP PROUNDLY PRESENTS HITMAN DAVID FOSTER AND FRIENDS BANGKOK 2023 โดยได้เชิญ เดวิด ฟอสเตอร์ ปรมาจารย์ด้านดนตรีระดับโลกที่เป็นทั้งนักร้อง นักดนตรี โปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง และเบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินระดับโลก มาแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับศิลปินเสียงคุณภาพที่มีรางวัลการันตีจากเวทีต่างๆ มารวมกันในงานมากมาย พิเศษที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน คือ การเชิญศิลปินไทยรุ่นใหม่ บิวกิ้น - พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ร่วมแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกเป็นครั้งแรก ในวันที่ 5 ส.ค. 2566

- เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้าคนสำคัญ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีเครือข่าวทั่วโลก ได้แก่ สายการบินชั้นนำต่างๆ อาทิ Emirates Airline , Cathay Pacific , การบินไทย เป็นต้น โดยได้ร่วมมือสร้างสรรค์แคมเปญอย่างต่อเนื่อง อาทิ การรังสรรค์ประสบการณ์การเดินทางระดับ World Class สำหรับสมาชิกระดับท็อปสเปนเดอร์, ร่วมนำเสนอแพคเกจบัตรโดยสารโดยมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าสมาชิก VIZ ในโอกาสต่างๆ ตลอดจนการใช้พื้นที่จัดกิจกรรมจำหน่ายตั๋วโดยสารในราคาพิเศษ เป็นต้น

- สยามพิวรรธน์ ได้ร่วมกับ Travel Tech หรือ บริษัท ทราเวล เทคโนโลยีเซอร์วิส จำกัด ผู้นำในธุรกิจการเดินทางระดับพรีเมี่ยมซึ่งมีผู้บริหารและทีมงานระดับคุณภาพที่พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก โดยได้นำความรู้ ความชำนาญ และการบริการเหนือระดับสำหรับลูกค้าคนสำคัญของศูนย์การค้าต่างๆ ในเครือสยามพิวรรธน์ ที่ผ่านมา Travel Tech ได้ร่วมให้การร่วมสร้างประสบการณ์สุดพิเศษประทับใจ เป็นความทรงจำที่ดีเยี่ยมในหลากหลายทริป สำหรับในปีนี้ คือ การเดินทางท่องเที่ยวสำหรับลูกค้าท็อปสเปนเดอร์ ที่ประเทศนิวซีเลนด์ ประเทศอิตาลี และประเทศกรีซ ซึ่งเป็นเคล็ดลับความสำเร็จประการหนึ่งของทีม Customer Relationship Management ของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์

นับจากนี้ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะพลังของการผสานศักยภาพของผู้นำธุรกิจอย่างกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ที่มุ่งมั่นในการขยายอีโค่ซิสเตม เร่งผนึกกำลัง Co-create & Collaboration กับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกอีกมากมาย เป็นการผสานศักยภาพที่สร้างพลังไร้ขีดจำกัด ที่จะสร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่และส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้พัฒนาโกลบอล เดสติเนชั่น ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลก