ข่าว

องค์กร

02 ตุลาคม 2015 องค์กร

พิธีลงนามความร่วมมือครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ในนาม "พลังสยาม" เพื่อผนึกกำลังพันธมิตรภายในย่าน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน


นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน), นายบุญส่ง ศรีสว่างเนตร รองประธานกรรมการบริหาร "กลุ่มธุรกิจสยาม สแควร์" และนางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ตัวแทนผู้ประกอบการชั้นนำในย่านสยาม ร่วมจัดพิธีลงนามความร่วมมือครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ในนาม "พลังสยาม" เพื่อผนึกกำลังพันธมิตรภายในย่าน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมเดินหน้าโครงการต่างๆ ผลักดันย่านสยามในฐานะยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นการผสมผสานระหว่างเทรนด์ที่ล้ำสมัย การช้อปปิ้งระดับโลก และศิลปวัฒนธรรม ความบันเทิงที่หลากหลายครบทุกมิติ สอดรับทุกความต้องการ ภายใต้แนวคิด "The Metropolis of Diverse Modernity" โดยได้รับเกียรติจาก นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าว "ในนามของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือในวันนี้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือครั้งสำคัญของพันธมิตรพลังสยาม การแสดงพลังและความมุ่งมั่นของพันธมิตรภายในย่านที่พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยว "

"ย่านสยามถือเป็นศูนย์กลางของกรุงเทพมหานคร ซึ่งคือหัวใจหลักของประเทศไทย ที่มีอัตลักษณ์แตกต่างและโดดเด่น โดยมีผู้ประกอบการวิสาหกิจทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนย่านสยาม ที่อยู่มานานกว่า 50 ปี ให้เติบโตแข็งแรง สร้างรายได้ให้ธุรกิจท่องเที่ยวมูลค่ามหาศาล มีสินค้าและบริการที่มีความหลากหลายสอดรับกับความต้องการทุกรูปแบบ และ ในวันนี้เมื่อกลุ่มพันธมิตรหลักได้รวมตัวกันในนาม "พลังสยาม" ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวกับนานาประเทศตอกย้ำความเป็นไทยสร้างสรรค์ และเป็นโอกาสในการเติบโตผ่านการสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งของย่านธุรกิจการค้า แหล่งรวมการช้อปปิ้ง ศิลปวัฒนธรรม และความบันเทิงที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของโลก"

ย่านสยามถือเป็นศูนย์กลางของกรุงเทพมหานครที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ ๆ และสัญลักษณ์แห่งความเจริญทางด้านเศรษฐกิจการค้าของประเทศไทยมาทุกยุคทุกสมัยจวบจนปัจจุบัน ทั้งยังเป็นทำเลที่เป็นศูนย์กลางของการคมนาคมซึ่งได้มีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของย่าน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากเลือกสยามเป็นจุดหมายปลายทาง และเป็นย่านธุรกิจการค้าแรกที่ทุกคนนึกถึง

นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ "บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)" และตัวแทนพันธมิตรพลังสยามกล่าวว่า "ผู้ประกอบการทุกรายในทุกธุรกิจ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในย่านสยามนั้นถือเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนย่านสยามให้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ และในปีนี้เป็นโอกาสอันดีในการผนึกกำลังความร่วมมือของผู้ประกอบการชั้นนำ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ครอบคลุมตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่า ไปจนถึงแยกบรรทัดทอง และสะพานหัวช้างให้เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยเริ่มต้นที่การลงนามความร่วมมือในนาม "พลังสยาม" ตอกย้ำอัตลักษณ์สำคัญของย่านในฐานะศูนย์กลางแห่งการผสมผสานเทรนด์ที่ล้ำสมัย การช้อปปิ้งระดับโลก ศิลปวัฒนธรรม และความบันเทิง ที่หลากหลายครบทุกมิติ ตอบสนองทุกความต้องการ โดยความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการให้มีจุดยืนที่เข้มแข็ง และเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศไทย ทั้งยังเป็นการร่วมสืบสานทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเพื่อสร้างให้ย่านสยามเป็นที่หนึ่งในใจของนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวไทยตลอดไป"

ด้านนายบุญส่ง ศรีสว่างเนตร รองประธานกรรมการบริหาร "กลุ่มธุรกิจสยามสแควร์" เปิดเผยว่า "จากข้อมูลล่าสุด ย่านสยามเป็นย่านที่มีการขยายตัวและการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจการค้าที่แข็งแกร่ง เปรียบเป็นทำเลทองคำของกรุงเทพมหานคร เทียบเท่ากับถนนหรือย่านสำคัญในต่างแดน อาทิ ย่านกินซ่า (Ginza) ของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งย่านสยามยังถือเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นจุดศูนย์รวมของการคมนาคมขนส่งโดยเฉพาะการคมนาคมที่ทันสมัยที่สุดของกรุงเทพมหานคร และมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงจำนวนผู้สัญจรทั่วไปเดินทางมายังสยามจำนวนเฉลี่ยกว่า 550,000 คนต่อวันและมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อให้เกิดการจับจ่ายและการเคลื่อนไหวภายในย่าน ดังนั้นการผนึกกำลังภายในย่าน ไม่เพียงช่วยให้ย่านพร้อมรับการเติบโตของประชาคมอาเซียน แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ"


นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร "บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด" กล่าวเสริมถึงแผนการขับเคลื่อนของพันธมิตรพลังสยามว่า "สิ่งสำคัญที่ทำให้สยามได้รับการขนานนามว่าเป็นจุดเริ่มต้นและศูนย์กลางของคนเมือง สัญลักษณ์ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจการค้าทุกยุคทุกสมัย หัวใจสำคัญของกรุงเทพมหานคร ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้ประกอบการทุกราย หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างมุ่งพัฒนาสินค้า บริการ และระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดนิ่ง และทันต่อกระแสโลกอยู่เสมอ ทำให้ย่านสยามสามารถครองความเป็นแหล่งธุรกิจ และศูนย์กลางไลฟ์สไตล์สำคัญอันดับหนึ่งในใจของทุกคนมาโดยตลอด และในวันนี้กลุ่มพันธมิตรพลังสยามมีแผนความร่วมมือเพื่อพัฒนาย่านในหลายโครงการ อาทิ แผนการทำกิจกรรมประชาสัมพันธ์ย่านสยามให้มีชื่อเสียงในเวทีโลก เป็นเมืองที่ทุกคนจากทั่วโลกอยากจะมาเยี่ยมชมมากที่สุด ผ่านการทำเว็บไซต์ การทำสื่อประชาสัมพันธ์ การสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างเหนือระดับและสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ การดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ทางเดินลอยฟ้า สร้างย่านสยามให้เป็นจุดศูนย์กลางแห่งงานศิลปะ หรือ Art District ใจกลางกรุงเทพมหานคร การจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเฉลิมฉลองเทศการสำคัญตลอดทั้งปี จัดทำแพคเกจโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว เป็นการร่วมมือของพันธมิตรภายในย่านเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ยังมีแผนยกระดับการดูแลความปลอดภัยภายในย่านให้มีมาตรฐานเดียวกันอีกด้วย"

- การปรับปรุงพื้นที่ทางเดินลอยฟ้า บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ และสี่แยกปทุมวันให้เชื่อมต่อถึงกัน ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคม และเชื่อมต่อจุดท่องเที่ยวสำคัญๆภายในย่าน ยกระดับพื้นที่บริเวณทางเชื่อมให้เป็นอารยสถาปัตย์ (Universal Design) และเปิดเป็นจุดจัดแสดงงานศิลปะกลางแจ้งซึ่งจะเป็นศูนย์รวมสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ และเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ต้องมาเยือน

- การยกระดับมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยภายในย่าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ที่สัญจรไปมาภายในย่านสยาม ผ่านนโยบายการดำเนินงานต่างๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลในการระวังภัยร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนภายในพื้นที่ย่านสยามเพื่อป้องกันและระงับเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น การแบ่งปันความรู้ต่างๆ ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยระหว่างหน่วยรักษา ความปลอดภัยของศูนย์การค้าหลักภายในย่าน รวมไปถึงการฝึกซ้อมลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของทีมทำงานภายในย่าน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจัดตั้งระบบดูแลความปลอดภัยที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วเขตพื้นที่

- โครงการปรับปรุง "ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่" โดยสยามพิวรรธน์ ด้วยเงินลงทุน 4,000 ล้าน เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะ "ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย" ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เขย่าวงการค้าปลีกในแบบ "Breaking all The Rules" ซึ่งเป็นต้นแบบห้าง "ไฮบริด รีเทล" นำความแปลกใหม่เหนือระดับมามอบให้กรุงเทพมหานครอีกครั้ง หลังจากเคยสร้างปรากฏการณ์พลิกโฉมสยามเซ็นเตอร์เมื่อ 2 ปีก่อนจนประสบความสำเร็จมากมาย นอกจากนี้ยังมีแผนการใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาทในการขยายพื้นที่โซนอาหารบริเวณชั้น G ในศูนย์การค้าสยามพารากอน

โครงการพัฒนาพื้นที่โดย "กลุ่มธุรกิจสยามสแควร์" โครงการสวนหลวงสแควร์ ปรับปรุงพื้นที่บริเวณสวนหลวงและสามย่าน ภายใต้แนวคิดแหล่งรวมความอร่อยและความสุขของชีวิต พร้อมเป็นต้นแบบของการค้าย่านชุมชนที่ยังคงเอกลักษณ์อาคารพาณิชย์ในรูปแบบที่ทันสมัยและสวยงาม โครงการอุทยานจุฬาฯ 100 ปี ถนนจุฬาฯ 100 ปี พร้อมพัฒนาที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมส่วนรวม ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร เปรียบได้กับปอดแห่งใหม่ของชาวกรุงเทพฯ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ทั้งยังเป็นการสร้างระบบนิเวศในเมือง โดยจะเป็นพื้นที่หน่วงน้ำ ช่วยให้น้ำฝนระบายลงสู่ผืนดิน ไม่ขังเอ่อล้น เสมือนรางน้ำธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการพัฒนาพื้นที่บริเวณส่วนที่เรียกว่า "บล็อก เฮช" หรือ ห้างโบนันซ่าที่อาคารสำนักงานและอาคารจอดรถ พร้อมการพัฒนาอาคารสยามกิตติ์ เป็นโรงแรมที่พักด้วยงบประมาณกว่า 3000-4000 ล้านบาท

- โครงการปรับปรุง เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ซึ่งทุ่มเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงยกระดับศูนย์การค้าให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ครอบคลุมพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอาคารที่มีการตกแต่งต่อเติมส่วนด้านหน้าของศูนย์การค้าใหม่ทั้งหมดเพื่อสร้างภาพลักษณ์อันทันสมัยให้กับอาคาร มีการออกแบบและตกแต่งภายในอาคารที่มอบความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น มีการรวบรวมร้านอาหารแบรนด์ดัง และร้านค้าแฟชั่นชั้นนำต่าง ๆ เพิ่มเติมภายในศูนย์การค้า นำเสนอความหลากหลายของสินค้าให้กับผู้ที่มาใช้บริการ นอกจากนี้ เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาทในการปรับปรุงยกระดับพื้นที่ทางเชื่อมบริเวณสถานีรถไฟฟ้ารอบอาคาร

การผนึกกำลังของพันธมิตรภายในย่านสยาม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การลงนามความร่วมมือ "พลังสยาม" ในครั้งนี้ เป็นการเดินหน้าเพื่อตอกย้ำถึงพลังอันแข็งแกร่งของย่านสยามที่ยืนหยัดอยู่คู่กับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยมาโดยตลอด และพร้อมปักหมุดให้ย่านสยามเป็นยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจ การค้า และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก